วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2560

การตั้งสมมติฐานการวิจัย

การตั้งสมมติฐานการวิจัย


  ความหมายของสมมติฐาน 
                สมมติฐาน คือ คำตอบที่ผู้วิจัยคาดคะเนไว้ล่วงหน้าอย่างมีเหตุผล หรือสมมุติฐานคือข้อความที่อยู่ในรูปของการคาดคะเนความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร 2 ตัว หรือมากกว่า 2 ตัวเพื่อใช้ตอบปัญหาที่ต้องการศึกษา สมมติติฐานที่ดีมีหลักเกณฑ์ที่สำคัญ 2 ประการคือ
          1. เป็นข้อความที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร
          2.เป็นสมมติฐานที่สามารถทดสอบได้โดยวิธีการทางสถิติ

ประเภทของสมมติฐาน มี 2 ชนิด คือ
          1. สมมติฐานทางการวิจัย (Research hypothesis)
          2. สมมติฐานทางสถิติ (Statistical hypothesis)
          1. สมมติฐานทางการวิจัย (Research hypothesis)
          หมายถึงการคาดคะเนคำตอบของการวิจัยไว้ล่วงหน้าที่เขียนอยู่ในรูปข้อความ หรือประโยคที่แสดงความสัมพันธ์ ระหว่างตัวแปรที่ศึกษาตั้งแต่ 2 ตัวแปรขึ้นไป

ประเภทของสมมติฐานการวิจัย
          1. สมมติฐานแบบมีทิศทาง (directional hypothesis) เป็นสมมติฐานที่เขียนโดยระบุทิศทางของความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรซึ่งอาจสัมพันธ์ทางบวก-ทางลบหรือมากกว่า-น้อยกว่า
ตัวอย่างของสมมติฐานแบบมีทิศทาง (directional hypothesis)
-          ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาที่อยู่กับพ่อแม่ หรือผู้ปกครองสูงกว่านักศึกษาที่อยู่หอพัก
-          ความเชื่อในความสามารถตนกับผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนของนักเรียนมีความสัมพันธ์ทางบวก
-          ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนโดยใช้สื่อ CAI
-          ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้สื่อ CAI สูงกว่านักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ
          2. สมมติฐานแบบไม่มีทิศทาง (non - directional hypothesis) เป็นสมมติฐานที่เขียนโดยไม่ได้ระบุทิศทางของความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร หรือระบุทิศทางของความแตกต่างของตัวแปร
          ตัวอย่างสมมติฐานแบบไม่มีทิศทาง (non - directional hypothesis)
-          ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาที่อยู่กับพ่อแม่ หรือผู้ปกครองแตกต่างจากนักศึกษาที่อยู่หอพัก
-          ความเชื่อในความสามารถตนกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษามีความสัมพันธ์กัน
-          ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนแตกต่างจากก่อนเรียนโดยใช้สื่อ CAI
-          ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้สื่อ CAI กับนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะแตกต่างกัน
          2. สมมติฐานทางสถิติ (Statistical hypothesis)
          หมายถึงการคาดคะเนคำตอบการวิจัยโดยใช้สัญลักษณ์หรือ โครงสร้างทางคณิตศาสตร์ที่แปลความมาจากสมมติฐานการวิจัย เพื่อใช้ในการทดสอบสมมติฐานต่อไป

ประเภทของสมมติฐานทางสถิติ
          1. สมมติฐานเป็นกลาง (null hypothesis : Ho) เป็นสมมติฐานที่เขียนอธิบายความสัมพันธ์ในลักษณะที่ไม่มีความสัมพันธ์กัน หรือไม่มีความแตกต่างกัน
          2. สมมติฐานทางเลือก (alternative hypothesis : H1 หรือ  Ha) เป็นสมมติฐานที่แปลงมาจากสมมติฐานการวิจัยซึ่งเขียนอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรและกำหนดควบคู่กับสมมติฐานเป็นกลาง

สัญลักษณ์ที่ใช้เขียนสมมติฐาน
          m       แทน    คะแนนเฉลี่ยของประชากร
          s2      แทน    ความแปรปรวนของประชากร
          r       แทน    ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร

ตัวอย่างที่ 1
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
          เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้สื่อ CAI
สมมติฐานการวิจัย
          ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนโดยใช้สื่อ CAI
สมมติฐานทางสถิติ
Ho : µ1 =  µ2
HA  : µ1 > µ2
เมื่อ      µ1 แทน  ค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนโดยใช้สื่อ CAI
          µ2 แทน ค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนโดยใช้สื่อ CAI

ตัวอย่างที่ 2
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
          เพื่อเปรียบเทียบความพึงพอใจของผู้บริหารสถานศึกษาต่อการบริหารของผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาลพบุรี เขต 1 เมื่อจำแนกตามสังกัดเดิม (ประถมศึกษา - มัธยมศึกษา)
สมมติฐานการวิจัย
          ผู้บริหารสถานศึกษามีความพึงพอใจต่อการบริหารงานของผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาลพบุรี เขต 1 แตกต่างกันเมื่อจำแนกตามสังกัดเดิม
สมมติฐานทางสถิติ
Ho : µ1 =  µ2
HA  : µ1 ¹ µ2
เมื่อ      µ1 แทน  ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา ต่อการบริหารงานของผู้อำนวยการ                         สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาลพบุรี เขต 1
          µ2 แทน  ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาต่อการบริหารงานของผู้อำนวยการ                          สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาลพบุรี เขต 1

ตัวอย่างที่ 3
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
          เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อในความสามารถตนกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาสมมติฐานการวิจัย
          ความเชื่อในความสามารถตนมีความสัมพันธ์ทางบวกกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษา
สมมติฐานทางสถิติ
Ho :     rAB   =   O
HA :     rAB   >   O
เมื่อ      rAB แทน ความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อในความสามารถตนกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน


บทเรียนเสริม

วิดีโอเรื่อง การตั้งสมมติฐานการวิจัยระดับอุดมศึกษา                                
https://www.youtube.com/watch?v=SDZZCwe5QhM
แหล่งการเรียนรู้เพิ่มเติม


การเขียนสมมติฐานการวิจัย
https://etraining2012.wordpress.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88/

สมมติฐาน (Hypothesis testing)

https://www.gotoknow.org/posts/401198%20%20%20%E0%B9%84